โครงการ LEED Platinum ที่มหาวิทยาลัย North Dakota, Grand Forks, ND
5 เคล็ดลับของบริษัทออกแบบยักษ์ใหญ่ JLG Architects
JLG Architects บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการออกแบบ และการก่อสร้างในสหรัฐอเมริก เป็นบริษัทที่มีโปรเจคที่ท้าทายสถาปนิกอยู่เสมอ JLG Architects สร้างผลงานที่มูลค่าไม่ต่ำกว่า หนึ่งแสนล้านบาทต่อปีได้อย่างไร? มีแนวคิดอย่างไร? ในการออกแบบให้สามารถสร้างโครงการได้มากมาย ไปอ่านกันครับ
รับชมโปรเจคทั้งหมดของ JLG Architects
The Design Futures Council เครือข่ายสหวิทยาการด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ และผู้นำด้านการก่อสร้าง ได้สำรวจและพบว่า ร้อยละสี่สิบของบริษัทสถาปัตยกรรมในสหรัฐฯ ยอมรับว่าการรวมความยั่งยืนของงานออกแบบ เป็นความท้าทายสำหรับบริษัทออกแแบบ ที่จะรวมความยั่งยืนเข้าไว้ในทุกๆโครงการ ต่างสนับสนุนกันอย่างแข็งขัน และผลักดันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ในงานวิจัย แสดงให้เห็นว่า การนำเสนอการออกแบบที่ยั่งยืนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เจ้าของอาคาร ที่จะได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทางการเงิน และอื่นๆ เช่น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำลง ความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัยที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน บวกกับผลประโยชน์ทางการเงิน ที่ไม่ได้มาจากค่าใช้จ่ายแรก ที่สูงขึ้นเสมอไป
การออกแบบอาคาร Argyle โดย JLG Architects, Grandforks, ND
มอบผลประโยชน์จากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายๆ ฝ่ายในโครงการ ที่มีมูลค่าสูง ย่อมนำไปสู่การทำซ้ำธุรกิจ สำหรับบริษัทออกแบบ ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า การออกแบบที่ยั่งยืนนั้น ดีต่อธุรกิจ
สำนักงานสถาปนิก JLG, Grand Forks, ND โซนการทำงานร่วมกัน และห้องขนาดเล็ก ที่มองเห็นพื้นที่ทำงาน แสดงการออกแบบที่ใช้งานซึ่งอำนวยความสะดวกโดย Sefaira
กล่าวถึง JLG Architects ถูกก่อตั้ง ขึ้นในปี 1989 โดยมีพนักงาน 150 คน และมีสำนักงานในอเมริกาเหนือ 13 แห่ง สถาปนิกของ JLG ได้รับรางวัล AIA มากมาย สำหรับโครงการต่างๆ ตั้งแต่ศูนย์สุขภาพ, อาคารสำนักงานของบริษัท, อาคารสำหรับผู้โดยสารในสนามบิน และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษา ไปจนถึงสถานที่ออกกำลังกาย และเล่นกีฬา ที่ได้รับการรับรอง เช่น อาคาร LEED Platinum แห่งแรกในนอร์ทดาโคต้า และ LEED Gold และ Silver สำหรับโครงการต่างๆ ตั้งแต่ศูนย์วิจัยไปจนถึงการพัฒนาที่อยู่อาศัย และกำลังดำเนินการตาม การรับรองแบบเต็มของ Living Building Challenge, Fitwell, LEED Platinum, AIA Framework for Design Excellence และประสิทธิภาพด้านพลังงาน ที่ยอดเยี่ยม สำหรับสำนักงาน ของตัวเองใน Grand Forks (ดังแสดงด้านบน)
สถาปนิก JLG ในสำนักงานมินนิอาโปลิส, มินนิอาโปลิส, มินนิโซตา โซนความร่วมมือที่มองเห็น น้ำตกเซนต์แอนโทนี พร้อมที่อยู่ฟรี ทางด้านซ้ายมือ
ความเป็นเลิศทางด้านการออกแบบ ที่แทรกซึมอยู่ในงานของ JLG นั้นมาจากการใฝ่หาวิสัยทัศน์ และค่านิยม ร่วมกับความเป็นผู้นำ เรานั่งคุยกับ Patrick Thibadeau แชมป์ด้านความยั่งยืนมาอย่างยาวนานและ Principal Sustainability Officer ที่ JLG เพื่อหารือว่า บริษัทประสบความสำเร็จ ในการแปลวิสัยทัศน์ และค่านิยม ในกระบวนการออกแบบของสมาชิกในทีมแต่ละคน ได้อย่างไร อ่านเคล็ดลับ 5 ข้อในการฝังความยั่งยืนลงในการปฏิบัติและกระบวนการอย่างประสบความสำเร็จ ภาพทั้งหมดได้รับความอนุเคราะห์จากสถาปนิก JLG
เหตุใดความยั่งยืนจึงสำคัญ?
ที่ JLG วิสัยทัศน์ของเราคือ "การออกแบบเพื่อชีวิต" ซึ่งหมายถึง การใช้ความคิดและทักษะในการออกแบบเพื่อช่วยให้บุคคลและชุมชนเจริญเติบโต วิสัยทัศน์นี้ได้รับการสนับสนุนจากค่านิยมหลักห้าประการ ได้แก่ การออกแบบ ชุมชน ความสัมพันธ์ การดูแล และความซื่อสัตย์ JLG ก็ดำเนินตามค่านิยมเหล่านี้โดยการทำงานเพื่อยกระดับประสบการณ์ของมนุษย์โดยส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสุขภาพของผู้ครอบครอง สุขภาพ ความเท่าเทียม และความยืดหยุ่นต่อบุคคลและสถานที่ โดยการออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเชิงบวก ในด้านของพลังงาน และใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อบรรลุความมั่งคั่งทางการเงินแก่ชุมชน องค์กร และบุคคล
และเป้าหมายเหล่านี้ มีอยู่เสมอ ตลอดประวัติศาสตร์ 30 ปี ของบริษัท พวกเขาเป็นตัวเป็นตน โดยผู้ก่อตั้ง และตอนนี้เขียน และส่งต่อเพื่อให้สมาชิกในทีมแต่ละคน ยอมรับวิสัยทัศน์ ค่านิยม และแนวทาง และเข้าใจขั้นตอน ที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องดำเนินการ ในทุกโครงการเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
ปัจจุบัน ทุกโครงการ เริ่มต้นด้วยแผนประสิทธิภาพสูง FDE-10 และแบบจำลองพลังงาน และแต่ละรุ่นมีตัวเลือกการออกแบบเป็นศูนย์แทนที่จะมุ่งเป้า ไปที่การปรับปรุงส่วนเพิ่ม หรือมุ่งเน้นเฉพาะโครงการที่แยกออกมา เราได้เข้าไปทำการวิเคราะห์ในทุกๆ โครงการ และทุกๆ โครงการ จะมีสมาชิกในทีม ที่กำหนดความรับผิดชอบในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ภายใต้หัวข้อทั้งหมด 10 หัวข้อ ในกรอบงาน AIA ได้รับการกล่าวถึงโดยมีเป้าหมายที่ มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งนำทางเลือกอันมีค่า มาให้ลูกค้าพิจารณา จากความพยายามร่วมกันนี้ รายงานปี 2020 ของเรา จึงลดพลังงานลง 55% เมื่อเทียบกับเส้นฐานในปี 2030
การสร้างแบบจำลองพลังงานโดยใช้ปลั๊กอิน Sefaira สำหรับ SketchUp นั้น สถาปนิกของ JLG ได้คำนึงถึง EUI(Energy Use Intensity) ที่เป็นเมตริกทั้งหก ที่นักออกแบบทุกคนควรรู้ ทำให้สถาปนิกเข้าใจถึงปัจจัยสำคัญ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน JLG Architects มีกระบวนการ ในการเก็บรวบรวมบทเรียน ที่ได้เรียนรู้เหล่านี้ และนำไปใช้กับโครงการอื่นๆ ในอนาคต โดยที่ JLG Architects มีความมุ่งมั่นที่จะออกแบบให้ดีที่สุด และราคาถูกที่สุด สำหรับลูกค้าในทุกๆ ราย การวิเคราะห์การออกแบบที่รวดเร็ว ราคาไม่แพง และสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ เป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมตัว และรองรับโครงการจากลูกค้าจำนวนมากได้ ช่วยลดทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าได้
การจัดการกับปัจจัย และข้อกำหนดต่างๆ ของการออกแบบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้มาตราฐานการออกแบบนั้น เป็นสิ่งที่ทำใหใ้เกิดความยั่งยืน และเป็นการยกระดับมาตราฐานขึ้นไปอีกขั้น SketchUp และ Sefaira จะเป็นเทคโนโลยีหนึ่งที่มาช่วยในการออกแบบได้เป็นอย่างดี และยั่งยืนในอนาคต อีกทั้งยังเป็นเรื่องท้าทายในอุตสาหกรรมการออกแบบ ให้สิ่งก่อสร้างที่ถูกออกแบบมามีประสิทธิภาพสูง
สำนักงานสหกรณ์ไฟฟ้า Mountrail Williams, Williston, ND
เคล็ดลับห้าประการสำหรับการฝังความยั่งยืนในทางปฏิบัติให้ประสบความสำเร็จ
1.Doing is Knowing
การมีข้อมูลที่มาจาการพูด การฟัง ไม่สำคัญ หรือได้ผลดีเท่า การลงมือทำ เป็นเวลาหลายทศวรรษ ที่อาชีพการงาน มุ่งเน้นไปที่การฟังผู้พูด ซึ่งสร้างภาพลวงตาของการเรียนรู้ JLG ได้เร่งความก้าวหน้าโดยมุ่งเน้นไปที่แนวทาง "ทำคือการรู้" เพื่อเรียนรู้ การกระทำที่ทำลายอุปสรรคของความเข้าใจและเร่งการเรียนรู้
2.Always on
JLG มักจะทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ ให้เหมือนกับการหายใจ (สิ่งที่ขาดไม่ได้) มันเพิ่งเกิดขึ้น “เราคาดหวังผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมที่ถูกต้อง” ตัวอย่างเช่น JLG มีสคริปต์แบบกำหนดเองที่เปิดใช้ Sefaira เมื่อเปิดใช้งาน SketchUp ดังนั้นปลั๊กอิน Sefaira จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติ สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่า การวิเคราะห์อยู่ในใจเสมอ และสามารถเข้าถึงได้ เมื่องานออกแบบเสร็จสิ้น
3.Real-time design analytics
ในการจำลองประสิทธิภาพอาคารและสิ่งก่อสร้างนั้น แทนที่จะเป็นทีมของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่ทำการจำลองประสิทธิภาพ แต่ที่ JLG Architects ให้แต่ละทีม เตรียมแบบจำลอง SketchUp และเรียกใช้การวิเคราะห์ Sefaira ที่ได้รับ โดยมีการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญอีกที โดยโมเดลเหล่านี้จะได้รับการอัปเดต เพื่อให้ข้อมูลที่ได้รับ ตรงกับการพัฒนาของโครงการ และจะมีการทบทวนในแต่ละเดือน หรือเมื่อสิ้นสุดขั้นตอนการออกแบบในแต่ละขั้น
4.Embed best practices and standardize repeat tasks
JLG Architects ได้พัฒนาโมเดลเริ่มต้น สำหรับใช้เป็นต้นแบบในเว็บแอป Sefaira สำหรับสิ่งปลูกสร้างในแต่ละประเภท ทำให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ พารามิเตอร์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจะรวมอยู่ในไฟล์เริ่มต้น เป็นค่าที่ตั้งไว้ล่วงหน้า ให้กับนักออกแบบ
5.Normalize pushing the boundaries
เราสนับสนุนให้ทีมทดสอบความคิด เราอนุญาตให้ทีมของเรา และแม้กระทั่งสนับสนุนการทดสอบขีดจำกัดสูงสุด ในแบบจำลองเพื่อ "เรียนรู้ โดยการทำ และดูว่าเกิดอะไรขึ้น" เมื่อผ่านการทดสอบเหล่านี้ นักออกแบบก็สามารถเรียนรู้และเข้าใจ ทั้งความสำคัญ และความอ่อนไหวของปัจจัยอาคารต่างๆ เช่น R-value, daylight, massing, orientation, air infiltration, และ glass performance. ได้
การที่ลูกค้าพึงพอใจ และไว้วางใจ ให้มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งก่อสร้างนั้น การออกแบบให้สิ่งก่อสร้างได้เสร็จตามความต้องการของลูกค้า และสิ่งก่อสร้างที่ทำออกมามีประสิทธิภาพสูง รวมถึงการปฏิบัติงงานตามแผนที่วางไว้ อย่างชาญฉลาด อีกทั้งนำเทคโนโลยีที่มีในมือ มาเป็นตัวช่วยในการออกแบบ ทำให้เกิดเป็นความเป็นเลิศทางการออกแบบอย่าง JLG Architects
ประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งต้นทุน ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ ระหว่างการออกแบบ และการก่อสร้าง แถมยังได้สิ่งก่อสร้าง ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเทียบจากต้นทุนที่เท่ากัน คงต้องเอาแบบอย่างวิธีการใส่ความยั่งยืนไปในผลงานอย่าง JLG Architects แล้ว